ผู้เขียน: admin

สงครามเย็นของกลุ่มตาลีบันกับอัฟกานิสถาน

ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่กำลังร้อนแรงมากที่สุด  ลุ่มตาลีบันกับอัฟกานิสถาน  ในตอนนี้เป็นเรื่องสงครามระหว่างตาลีบันกับอัฟกานิสถานที่มีคำถามว่ามีจุดเริ่มต้นได้อย่างไรแล้วทำไมอเมริกาที่คอยอยู่ช่วยเหลือมาตลอดเกือบ20ปีต้องถอนทหารออกไปด้วย เรื่องนี้ต้องย้อมกลับไปในยุคสงครามเย็น

สหภาพโซเวียตได้ใช้กองกำลังทหารบุกเข้ามายึดครองประเทศอัฟกานิสถานเอาไว้ได้อย่างไรก็ตามในปี1979ประชาชนอัฟกานิสถานส่วนหนึ่งไม่ต้องการถูกยึดครองโดยโซเวียตจึงได้ตั้งทหารแบบกองโจรขึ้นมาในชื่อกลลุ่ทว่า มูจาฮีดีน เป้าหมายของมูจาฮีดีนนั้นคือการขับไล่โซเวียตออกจากประเทศให้ได้

ซึ่งด้วยสหรัฐกับโวเวียตต่อสู้กันในสงครามเย็นอยู่แล้วทางฝั่งสหรัฐจึงได้ให้เงินทุนและก็อาวุธให้กับกลุ่มมูจาฮีดีนเพื่อนำเอาไปสู้กับโซเวียตโดยบทสรุปว่ามูจาฮีดีนทำได้สามารถขับไล่พวกโซเวียตออกจากนอกประเทศได้สำเร็จในปี1989แต่ปัญหาก็คือว่ามูจาฮีดีนเป็นการรวมตัวกันของชาวอัฟกานิสถานหลากหลายแนวความคิด

เมื่อโซเวียตออกไปอำนาจในการปกครองประเทศจึงว่างลงทำไมกลลุ่มมูจาฮีดีนแตกย่อยกระจายออกเป็นหลายกลุ่มตามแต่แนวทางความเชื่อของตัวเองบางคนอยากให้ประเทศเจริญเหมือนชาติตะวันตกแต่ว่าบางคนอยากจะให้เป็นรัฐอิสลามอย่างเคร่งครัด

ในปี1994กองทหารชื่อกลุ่มตาลีบันก่อตั้งทหารขึ้นมาโดยคนตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่ากลุ่มโมฮัมเหม็ดโอมาร์แนวคิดของตาลีบันก็คือนำพาอัฟกานิสถานให้กลายเป็นรัฐอิสลามอีกครั้งโดยจะมีกฎข้อบังคับต่างๆอย่างเข้มงวดเช่นห้ามดูหนังห้ามฟังเพลงเด็กผู้หยิงห้ามเรียนหนังสือและผู้หยิงที่โตแล้วห้ามทำงานนอกบ้านยกเง้นแค่อาชีพหมดและต้องใส่ผ้าคุมให้เห็นแค่ดวงตาเท่านั้น

ในปี1996กองทหารตาลีบันเข้ายึดครองเมืองคาบูลได้สำเร็จพร้อมประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่ออัฟกานิสถานและอิสลามอันเข้มงวดก็เริ่มถูกใช้ตั้งแต่วันนั้นไม่เพียงแต่ตีกรอบเพศหณิงอย่างเข้มงวดเท่านั้นแต่ว่าผู้ปกครองที่เป็นผู้ชายถ้าหากควบคุมลูกสาวของตัวเองไม่ได้ก็จะมีบทถูกลงโทษด้วยเช่นพ่อของเด็กสาววัย15ปีคนหนึ่งที่ปล่อยให้ลูกสาวไปโรงเรียนปปรากฎว่าโดยกลุ่มตาบีบันบุกเข้ามาสังหารถึงบ้านเพราะมองว่าเป็นความผิด

ความเชื่อมโยงของตาลีบันกับสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นในปี2001เมือ่เกิดเหตุการนายอีเลฟเว่นเครื่องบินชนกับตึกเซ็นเตอร์โดยผู้ประกาศตัวว่าคนทำก็คือ โอซามา บินลาดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะฮ์

โดยหลังก่อเหตุแล้วบินลาดินได้หนีมาซ้อนตัวอยู่ที่อัฟกานิสถานภายใต้การคุมครองของตาลีบันโดยได้มีการวิเคราะห์กันว่ากลุ่มอัลกออิดะฮ์กับตาลีบันมีความสัมผัสต่อกันในฐานะเป็นกองทัพทหารอิสลามคล้ายกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  aesexy

ตำนาน ตาน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาหงอนนาค  จังหวัดกระบี่

       ตาน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงและยังติดริมถนน  สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ในตำนานที่มีคนเล่าขานเรื่องขานกัน โดยภูเขาสูงชั้นนี้มีชื่อเรียกว่า เขาหงอนนาค  ที่นี้มีต้นไม้ขึ้นมากมายเต็มไปหมด และลักษณะของป่าบนภูเขาแห่งนี้จัดว่าเป็นแนวป่าดงดิบเลยทีเดียว เพราะมีต้นไม้แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุม  ทำให้มองแทบไม่เห็นแสงพระอาทิตย์เลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามเขาหัวหน้าแข่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 500 เมตรซึ่งถือว่าเป็นภูเขาที่มีความสูงชันเป็นอย่างมากดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาสูงแห่งนี้จะเห็นได้ว่าคุณจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในระยะไกลๆได้อย่างงดงามซึ่งแน่นอนว่าวิวนี้คุณสามารถมองได้เป็นแบบพาโนรามากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว 

        มีการพูดถึงตำนานของเขาหงอนนาคโดยชาวบ้านซึ่งเป็นชาวพื้นบ้านนั้นต่างก็มีความเชื่อและมีการเล่าถึงตำนานนี้ดิ๊ต่อๆกันมาโดยบอกว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่มีความเก่าแก่มีอยู่มาแล้วหลายพันปีและที่นี่เป็นสถานที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาพญานาค   เนื่องจากความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของพญานาคนี่เองที่ทำให้ชาวบ้านตั้งชื่อยอดเขาแห่งนี้ว่าเขาหงอนนาค 

    สิ่งที่มีความเกี่ยวพันกับเขาหงอนนาคนั้นก็คือที่บริเวณนี้จะมีบ่อน้ำเล็กๆบ่อหนึ่งโดยชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำตานาคน้ำภายในบ่อแห่งนี้จะมีการผุดขึ้นมาเองตามธรรมชาติและมีการผุดขึ้นมาตลอดทั้งปีตัวนั้นจะมีความใสเป็นอย่างมากชาวบ้านเชื่อกันว่าน้ำแห่งนี้นั้นเป็นน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก

เพราะเป็นน้ำที่มาจากน้ำตาของพญานาคนั่นเองโดยถ้าหากใครมีเรื่องอยากที่จะขอพรกับพญานาคสามารถที่จะตั้งโต๊ะหมู่บูชาตรงบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้หลังจากนั้นก็ทำการตั้งจิตอธิษฐานพร้อมกันนั้นก็ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ตาน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

       ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าพรที่ขอนั้นจะประสบความสำเร็จคนที่กินน้ำที่บ่อน้ำตานาคแห่งนี้จะสมปรารถนาตามสิ่งที่ขอและมีแต่ความเป็นสิริมงคลอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเรื่องราวความเชื่อของเขาหงอนนาคแห่งนี้จะมีการพูดต่อกันมานานหลายร้อยหลายสิบปีแต่ทุกวันนี้คนในพื้นที่ก็ยังคงเชื่อตามคำบอกเล่าและตำนานนี้อยู่ซึ่งปัจจุบันนี้บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่และชาวบ้านนั้นก็มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปเล่นน้ำจะใช้ได้เฉพาะในโอกาสพิเศษสำหรับคนที่ต้องการไปขอพรเท่านั้น   

 

สนับสนุนโดย.  หวยดี

ศิลปะแบบเรอเนซองส์คืออะไร?

ศิลปะแบบเรอเนซองส์คืออะไร จะเห็นได้ว่าคำว่าเรอเนซองส์เนี่ยนะคะ โดยเวลาที่เรานั้นได้ยินซึ่งเราก็คงจะนึกนะคะโดยการเห็นภาพงานที่เป็นศิลปะทางตะวันตกแบบหลายๆชิ้น ที่โด่งดังมากๆซึ่งเรามองว่าจนแทบที่จะเป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองในความเป็นตะวันตกเลยด้วยซ้ำ 

แต่ว่าเรอเนซองส์ที่แท้จริงแล้วนั้นคืออะไรกันแน่ โดยคำว่าเรอเนซองส์แปลว่าอะไรนะคะแล้วก็โดนมองว่ามันเจ๋งมากเหลือเกินอย่างที่ใครๆเขาชอบบอกกันหรือเปล่า วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

โดยเราจะมีการพูดถึงในยุคของเรอเนซองส์โดยที่เราไม่พูดถึงยุคกลางก็คงไม่ได้นะคะ เช่นเดี่ยวกันกับที่เราจะไม่มีวันเข้าใจความหมายกว้างๆของเรอเนซองส์ โดยที่เราไม่พูดถึงยุคคลาสสิคค่ะที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Classical Antiquity นะคะ หรือยุคกรีกโรมันนั่นเองค่ะ เอาแบบหยาบๆเร็วๆ ให้เห็นภาพก่อนนะคะก็คือ กรีกโรมัน ยุคกลาง เรอเนซองส์ค่ะ 

คำว่าเรอเนซองส์เป็นภาษาของฝรั่งเศษนะคะโดยแปลว่าการเกิดใหม่ค่ะ โดยยุคเรอเนซองส์ก็หมายถึงยุคของการเกิดใหม่นั่นเอง คนในยุคที่เรานั้นเรียกว่าเรอเนซองส์นั้นนะคะ โดยพวกเขานั้นก็ไม่ได้รู้ว่าพวกเขานั้นอยู่ในยุคเรอเนซองส์เพราะว่าในการตั้งชื่อยุคหรือการสร้าง timeline ของประวัติศาสตร์นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ตีความและให้ชื่อกันในภายหลังทั้งนั้นค่ะ

คำว่ายุคเรอเนซองส์นั่นก็เช่นเดียวกันนะคะ โดยเป็นคำที่ถูกคิดขึ้นมาโดยนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสค่ะ จะเห็นได้ว่าเมื่อปี 1858นะคะ หรืออาจจะราวๆ 40 กว่าปีให้หลังนั้นในภาษาไทยของเราโดยเรานั้นได้แปลคำว่ายุคเรอเนซองส์ว่ายุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการหรือว่าถ้าหากจะให้แปลแบบตรงๆนั้นก็คือ จากฝรั่งได้ความหมายว่ายุคที่เกิดใหม่จากทางศิลปะวิทยาการนั่นเอง

โดยเกิดใหม่จากยุคกลางที่เขาได้ถือกันว่ามันเป็นยุคที่ถดถอยทางด้านของความรู้ เป็นยุตมืดหรือยุคล้าหลัง อะไรทำนองนี้ โดยการเกิดใหม่นะคะหมายถึงการกลับไปตามหาความรุ่งเรืองทางสติและปัญญา และองค์ความรู้ที่มนุษย์ของเรานั้นเคยมีอยู่ในยุคกรีกโรมันนั่นเอง

ถ้าจะมองให้เห็นภาพก้คือในยุคกรีกโรมันนั้นมันรุ่งเรืองมากๆเลย เสรฺจแล้วก็เข้าสู่ยุคกลางหรือยุคมืด เสร็จแล้วผ่านยุคมืดไปจนได้แล้วเราก็เข้าสู่ยุคเรอเนซองส์อันอลังการงานสร้างนี่แหละคะ ซึ่งเอาจริงๆนะคะคือการแบ่งแบบนี้ ก้ไม่ค่อยจะแฟร์กับยุคกลางซักเท่าไหร่ เนื่องจากว่ายุคกลางหรือที่เขาเรียกว่า The Middle Ages เนี่ยนะคะคือกินเวลาเป็นพันปีกันเลยทีเดียว

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  เว็บหวย จ่าย บาทละ 97

ดราม่า งานศิลปะที่ มช. เชียงใหม่ 

       ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีดราม่าเกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยเมื่อมีบุคคลนิรนามประมาณ 5 คนเข้าไปที่คณะวิจิตรศิลป์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  งานศิลปะที่ มช. เชียงใหม่  หลังจากนั้นก็พากันเก็บภาพผลงานศิลปะของนักศึกษาที่มีการตั้งโชว์เอาไว้ลงใส่ถุงดำโดยบรรดากลุ่มนักศึกษาต่างก็พยายามห้ามปรามแต่ชายทั้ง 5 คนนั้นก็ไม่สนใจ

            ซึ่งในจังหวะนั้นเองได้มีชายชุดขาวคนหนึ่งได้เข้ามาสอบถามถึงเหตุผลในการที่ใช้ทั้ง 5 คนนั้นเข้ามาในคณะวิจิตรศิลป์และมานำผลงานของนักศึกษาออกไปทิ้งโดยชายเสื้อขาวคนดังกล่าวนั้นก็คือ  ผศ.ดร. ทัศนัย   ซึ่งท่านก็เป็นอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยท่านนั้นอยู่สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ

 

            ซึ่งก็มีการเข้าไปพูดคุยจึงได้รู้ว่าบุคคลนิรนามทั้ง 5 คนนั้น มีทั้งตำแหน่งเป็นคณบดีรวมถึงรองคณบดีและคณาจารย์ของคณะวิจิตรศิลป์นั่นเอง  งานศิลปะที่ มช. เชียงใหม่  ซึ่งระหว่างที่มีการเก็บผลงานศิลปะของนักศึกษาเพื่อจะเอาไปทิ้งนั้นเราบรรดานักศึกษาก็ได้มีการไลฟ์สดลงในโลกออนไลน์จึงได้เห็นว่า   ผศ.ดร. ทัศนัย ออกมาช่วยปกป้องนักศึกษาและผลงานศิลปะ 

             โดยใจความที่ได้ออกมาพูดถึงนั้นพูดถึงคนที่เรียนและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ

นั้นควรจะต้องมีการเคารพผลงานศิลปะและเคารพศิลปินด้วยกันและเคารพผู้อื่นไม่ควรเอาผลงานของผู้อื่นนั้นไปทิ้งอีกทั้งยังถามคณบดีคนดังกล่าวด้วยว่าเป็นอาจารย์จริงหรือไม่ทำไมถึงไม่รักและไม่ปกป้องลูกศิษย์ทำไมถึงได้ทำตัวเป็นขี้ข้าคนอื่นและเป็นถึงอาจารย์ในสาขาศิลปะทำไมไม่รักและพิทักษ์ผลงานด้านศิลปะของลูกศิษย์และยังมีข้อความอื่นๆอีกมากมายจนทำให้ในโลก Twitter นั้นต่างพากันติด Hashtag  ผศ.ดร. ทัศนัย  กันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

          ซึ่งทางด้านบรรดานักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คณะวิจิตรศิลป์

ต่างก็มีการยื่นหนังสือไปยังสภานักศึกษาเพื่อให้บรรดาคณาจารย์ทั้ง 5 คนที่มาเก็บผลงานของนักศึกษาไปทิ้งได้ออกมาชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านอธิการบดีไม่ได้มีการส่งเอกสารเงินเดือนนักศึกษาให้เกิดผลงานแต่อย่างใดแต่มาถึงอธิการบดีและรองชนะอธิการบดีรวมถึงคนอื่นอีก 5 คนก็พากันมาเก็บผลงานศิลปะของนักศึกษาโดยที่ไม่ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้านั่นเอง

         อย่างไรก็ตามในขณะนี้เนื่องจากว่าเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์และตามสื่อต่างๆทำให้ในที่สุดแล้วอธิการบดีคณะวิจิตรศิลป์ที่เข้าไปเก็บผลงานศิลปะของนักศึกษานั้นจะออกมาชี้แจงว่าพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าผลงานศิลปะนั้นเป็นขยะ จึงมีการมาเก็บทำความสะอาดซึ่งทุกคนต่างก็รู้ดีกันว่านั่นเป็นแค่คำแก้ตัวเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย.  หวยออนไลน์ ไม่อั้นเลข

ตำนาน ความเชื่อเกี่ยวกับ การไหว้พระจันทร์ 

          ในสมัยโบราณมีการเปรียบเปรยหญิงสาวว่าเป็นเหมือนดั่งพระจันทร์  ซึ่งการเปรียบเทียบผู้หญิงกับพระจันทร์นี้ไม่ใช่เพียงแค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น การไหว้พระจันทร์  เพราะประเทศจีนเองก็มีการเปรียบเทียบแบบนี้เหมือนกัน  และตำนานเกี่ยวกับการไหว้พระจันทร์ก็มีการสื่อไปถึงหญิงสาวด้วยนั่นเอง 

       สำหรับตำนานเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์นั้นเป็นตำนานเก่าแก่ของประเทศจีน ซี่งตำนานนี้มีการพูดถึง หญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า ฉางเอ๋อ เธอเป็นหญิงสาวที่มีความงามเป็นเลิศ  อยู่มาวันหนึ่งฉางเอ๋อได้ไปกินยาวิเศษเข้า ซึ่งยาดังกล่าวนั้นสามารถทำให้เธอเหาะได้   เธอจึงได้เหาะขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์

     และนับตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา  ชาวบ้านก็พากันนับถือเธอเป็นธิดาแห่งพระจันทร์   และเธอก็กลายเป็นอมตะ ชาวบ้านต่างก็ให้ความเคารพนับถือเทพธิดาแห่งพระจันทร์กันเป็นอย่างมากเพราะเธอนั้นมีจิตใจที่งดงามมีเมตตาต่อชาวบ้านโดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ต้องทำนาทำไร่เทพธิดาแห่งพระจันทร์จะมีการพรมน้ำเอาไว้ลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อเป็นการให้ชาวบ้านมีน้ำเอาไว้ใช้ในการเพาะปลูก

         ดังนั้นชาวบ้านจึงรักและศรัทธาเทพธิดาแห่งพระจันทร์เป็นอย่างมาก  การไหว้พระจันทร์  ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงความรักและเคารพต่อเทพธิดาแห่งประการด้วยการทำขนมขึ้นมาเพื่อนำไปเป็นเครื่องเคารพสักการะโดยขนมนั้นเป็นขนมที่ถูกเรียกว่าขนมไหว้พระจันทร์นั่นเอง

          อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่ตำนานของการไหว้พระจันทร์หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์โดยมีการทำขนมไหว้พระจันทร์เอาไว้สำหรับมาเป็นเครื่องไหว้ในวันดังกล่าวนั้นคนจีนจะมีการรวมกันไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลแค่ไหนเมื่อถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกคนจะมารวมกันอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งและทานอาหารร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา 

          อาจจะกล่าวได้ว่าเทศกาลนี้เป็นเทศกาลแห่งการรวมกันของคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ซึ่งจริงๆแล้วเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่มีการจัดขึ้นมานานแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วจะจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 8 โดยยึดเอาตำราตามปฏิทินจีนสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้นนับว่าเป็นเทศกาลใหญ่ของคนจีนเลยก็ว่าได้สำหรับในประเทศไทยนั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักแต่ก็ยังคงมีการทำขนมไหว้พระจันทร์ออกมาขาย    

            อย่างไรก็ตามสำหรับการไหว้พระจันทร์นั้นยังคงมีการเชื่อและยังมีการประพฤติปฏิบัติทำตามกันอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นการศึกษาประเพณีของคนจีนเลยก็ว่าได้โดยขนมไหว้พระจันทร์นั้นปัจจุบันไม่ได้เพียงแค่นำไปไหว้พระจันทร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ถูกนำมาเป็นขนมไว้สำหรับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าทั้งหลายที่คนจีนให้ความเคารพนับถือ  ซึ่ง เชื่อว่าหากทำแล้วจะส่งผลให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมีแต่ความสงบสุขในครอบครัว 

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

วิวัฒนาการแต่ละปีของงานศิลปะ

อย่างที่รู้กันว่างานศิลปะต่างๆทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ทางด้านรูปแบบลักษณะในการใช้งานการศึกษาการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆเกิดขึ้นมากมายในยุคปัจจุบันการศึกษาเรื่องราวต่างๆในการเรียนรู้ถึงนวัตกรรมต่างๆ

ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนมาแล้วมากมายและรูปแบบต่างๆเหล่านี้ก็ยังคงมีการพัฒนาทางด้านการทำงาน การศึกษาทางด้านนวัตกรรมต่างๆทำให้มนุษย์สามารถศึกษาทางประวัติศาสตร์และการกำเนิดขึ้นของแต่ละอย่างขึ้นมาได้

คุณค่าของผลงานต่างๆที่มีการสร้างไม่ว่าจะเป็นแนวคิดหลักในการทำงานสิ่งที่บ่งบอกว่าวิธีการเกิดขึ้นและการปรับเปลี่ยนในยุคสมัยที่แตกต่างกันออกไปผู้คนในยุคสมัยนั้นๆ ย่อมมีลักษณะในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบในการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีการพัฒนาทางด้านวิถีชีวิตและการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยที่แตกต่างกันมีจึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจนะ ที่รูปแบบต่างๆการใช้ชีวิตของมนุษย์มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันที่รูปแบบต่างๆนี้ได้ส่งผลให้วิวัฒนาการของมนุษย์มีการศึกษาถึงความรู้ต่างๆในการทำงานและการเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปแบบต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นเพราะวิธีการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่แตกต่างออกไป

รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานโดยเฉพาะในปัจจุบันที่การศึกษาเกี่ยวกับการกำเนิดของรูปแบบของวัฒนธรรมต่างๆมีการศึกษาเนื้อหาต่างๆที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื้อหาความรู้ต่างๆยังคงมีการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยที่แตกต่างภายในยุคปัจจุบันการศึกษาถึงข้อมูลต่างๆและการค้นหาถึงแนวคิดต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ได้นำมาสู่

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของชีวิตของมนุษย์ในยุคสมัยที่แตกต่างกันไปหนึ่งในนั้นคือทางด้านรูปแบบและวัฒนธรรมในการส่งต่อถึงข้อมูลต่างๆ ในยุคปัจจุบันที่ความรู้ต่างๆมีการเปิดกว้างและมีการแบ่งปันกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้นข้อมูลในการเชื่อมโยงเนื้อหาต่างๆและการเปลี่ยนแปลงทางการทำงานและการวิวัฒนาการของสิ่งต่างๆเหล่านี้ 

โดยเฉพาะงานศิลปะต่างๆที่มีการพัฒนาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของผู้คนวิธีการทำงานต่างๆและข้อมูลในการค้นหาสภาพแวดล้อมต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งต่างๆเหล่านี้คือสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นมากมายกลางของการวิวัฒนาการในแต่ละช่วงวัยหรือช่วงปีต่างๆงานศิลปะต่างๆก็เป็นหนึ่งในนั้นที่การนำเสนอข้อมูลใดบ้างในการเข้าถึงผู้คนมีการพัฒนาและเข้าถึงใหม่ๆมากยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงได้ส่งต่อถึงข้อมูลและความคิดของผู้คนเพราะความคิดของผู้คนท่านที่มีการเติบโตและมีการเข้าถึงการใช้วัฒนาการต่างๆในการทำงานย่อมมีการเรียนรู้และส่งต่อถึงข้อมูลข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงถึงความคิดต่างๆ 

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    หวยออนไลน์บาทละ 950

รูปแบบของงานศิลปะในบทบาทของกรีก 

อีกหนึ่งชนชาติที่มีบทบาทและมีความสำคัญอย่างมากนั่นคือชาวกรีก เป็นชนชาติที่มีวัฒนธรรมและจุดเริ่มต้นของอารยธรรมตะวันตกผลงานชนชาติกี่นั้นแสดงถึงอารยธรรมของการมีสติปัญญาและทำงานรูปแบบที่สร้างสรรค์ในเชิงกายวิภาคค่อนข้างมากบ่งบอกถึงสติปัญญาและความเป็นเลิศในด้านต่างๆ รูปแบบของการทำงานต่างๆเหล่านี้ได้สะท้อนถึงความคิดและลักษณะในการทำงานของจิตรกรต่างๆมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุต่างๆในการทำงานหรือแม้จะเป็นการแสดงออกถึงทางด้านความคิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปรัชญา รูปแบบของกฎหมาย ระบอบการปกครองต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทั้งสิ้นในส่วนของจิตนาการทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกับงานศิลปะมันเป็นระยะเวลานานและยังคงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในยุคคลาสสิกนั้นรูปแบบของงานประติมากรรมของชนชาติกรีก ที่ซึ่งมีการวิวัฒนาการรูปแบบในการใช้เครื่องมือเครื่องมือในการทำงานตลอดจนรูปแบบของการใช้ทักษะขั้นสูงสุดในส่วนการวิพากษ์

ซึ่ง เรียนแบบร่างกายในส่วนต่างรูปแบบของการใช้เนื้อแกะสลักรูป 9 หรือไม่จะเป็นใช้ในส่วนของ ความละเอียดอ่อนในส่วนต่างๆทำให้ผสมกลมกลืนความสวยงามระหว่างความสมบูรณ์กับลักษณะของเจนอาการต่างๆยังคงมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางด้านศิลปะของยุคกรีกนี้มีบทบาทอย่างยิ่งมาจนถึงอายุในวันที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมีการศึกษาถึงผลงานต่างๆของเสียเหล่านี้แม้วันเวลาจะเปลี่ยนแปลงลักษณะงานที่ยังคงอยู่และอยู่เป็นอมตะก็ต้องยอมรับว่ากรีกนี้เป็นอีกหนึ่งยุคที่มีความสำคัญเกี่ยวกับศิลปะ

แต่จะเปลี่ยนเป็นรูปแบบและรูปแบบอื่น ๆ ถูกแบ่งออก โครงสร้างชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดเรื่องราวความคิดและแม้กระทั่งการทำงานของพวกเขามากมาย การเปลี่ยนแปลงและการนำเสนอทางสังคมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ลักษณะของงานของคนเหล่านี้ถูกนำเสนอในผลงานใหม่ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของศิลปะที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ก็ตาม ย้อนกลับไปในยุคแรกหรือยุคที่มนุษย์ยังไม่มีอุปกรณ์ในการทำงาน ในส่วนต่างๆซึ่งส่วนต่างๆเหล่านี้เอง

ทำให้ผลงานประติมากรรมต่างๆที่ถ่ายทอดถึงเทพเจ้าโบราณหรือแม้แต่จะเป็นนวนิยายต่างๆ น่าจะว่าต่างๆได้สร้างผลงานมากมายมีความนิยมในการสร้างรูปแบบของผู้คนต่างๆที่อยู่คนละระดับชั้น ตั้งแต่ชนชั้นสูงจนไปถึงชั้นล่าง รูปแบบการแสดงออกถึงการทำงานต่างๆมากมายทั้งความคิดของผู้คนที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดทำให้มนุษย์ในยุคนั้นที่ทำงานศิลปะในยุคกรีกมีบทบาท

สำคัญอย่างยิ่งในการถ่ายทอดถึงการปฏิบัติต่างๆที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจะมาถึงในยุคปัจจุบันที่การเรียนรู้ของสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ครบชนชาติต่างๆนั้นมีการพัฒนาทางด้านความคิดและเปลี่ยนแปลงทางด้านลักษณะในการทำงานต่างๆที่ซึ่งมีการนำเสนอความคิดต่างๆมากมายของผู้คน

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

ประวัติตุ๊กตากล้วยหอมจอมซน

             หากพูดถึงตุ๊กตาฝาแฝดคู่หนึ่งซึ่งมีลักษณะรูปร่างหน้าตาของตุ๊กตาทั้งคู่นั้นเป็นกล้วยหอมในสมัยนี้เด็กๆอาจจะไม่รู้จักตุ๊กตานี้มากนักแต่ถ้าใครที่เคยดูการ์ตูนในช่วงปีพศ 2535 ยอมจะรู้จักตัวนี้กันเป็นอย่างดีซึ่งถ้านับจากในปีนี้ย้อนกลับไปก็ประมาณ 28 ปีมาแล้วที่ตุ๊กตากล้วยหอมจอมซนได้ถือกำเนิดขึ้นซึ่งในตอนนั้นเรารู้จักตุ๊กตากล้วยหอมจอมซนมาจากรายการทีวีการ์ตูนของเด็กรายการหนึ่งโดยมีสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี

เป็นผู้ที่นำออกมาเผยแพร่ให้เด็กๆได้ชมกันซึ่งจะถ่ายทอดช่วงประมาณตอน 07:00 น เป็นรายการการ์ตูนแบบสั้นๆเพียงแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้นซึ่งรายการนี้เป็นรายการที่ถูกผลิตจากบริษัทหนึ่งในประเทศอังกฤษและถูกซื้อลิขสิทธิ์มาขายให้กับประเทศไทย ซึ่งในรายการเด็กๆจะตัดสินว่าจะมีกล้วยหอมอยู่ 2 ลูกเป็นพี่น้องฝาแฝดกันชื่อว่าบี 1 กับ บี 2 

และในรายการการ์ตูนก็จะเป็นการแสดงความกวนๆของทั้งบี 1 และบี 2 ทำให้เด็กๆที่ดูการ์ตูนในสมัยนั้นต่างก็ชื่นชอบการ์ตูนกล้วยหอมจอมซนกันเป็นอย่างมากหลังจากที่การ์ตูนกล้วยหอมจอมซนเป็นที่โด่งดังไปทั่วทั้งผู้ผลิตรายการการ์ตูนก็ได้มีการพัฒนาการ์ตูนกล้วยหอมจอมซนขึ้นมาใหม่

ซึ่งแทนที่เขาจะมีการเล่นกันเองแค่เพียงสองคนเท่านั้นก็มีเพื่อนๆเพิ่มขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นการนำตุ๊กตาที่แปลว่าร่วมเล่นด้วยและยังมีตุ๊กตาตัวอื่นๆมาร่วมเล่นด้วยซึ่งรูปแบบของการนำเสนอให้กับเด็กๆดูนั้น ได้มีการปรับปรุงใหม่ขึ้นมาเมื่อช่วงประมาณปี 2011 และรายการตุ๊กตากล้วยหอมจอมซนก็ยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายซึ่งตัวละครในเรื่องของกล้วยหอมจอมซนนั้นก็มีตุ๊กตาตัวอื่นๆมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นวัวเป็นหมูเป็นไก่หรือเป็นแพ็คก็ตามหากใครเคยได้ดูตุ๊กตานี้ก็จะรู้ว่ากล้วยหอมจอมซนนั้นมีคำพูดที่จะเป็นคำพูดติดปากที่ใครได้ยินก็จะรู้ว่าเป็นคำพูดของกล้วยหอมบี 1 และบี 2 อย่างแน่นอน

             ในปัจจุบันนี้การ์ตูนกล้วยหอมจอมซนนั้นเราแทบจะไม่ได้เห็นยกเว้นว่าถ้าหากผู้ปกครองไปหาเปิดดูจากใน YouTube มาให้เด็กๆดูก็จะยังคงมีรายการของกล้วยหอมจอมซนอยู่ซึ่งเป็นรายการการ์ตูนสำหรับเด็กอายุประมาณ 2-3 ขวบ และถึงแม้ปัจจุบันนี้จะไม่มีการ์ตูนกล้วยหอมจอมซนมาออกอากาศให้เด็กๆได้ชมกันแต่ตุ๊กตากล้วยหอมจอมซนนั้นก็ยังคงมีการผลิตออกมาขายอยู่

ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีการออกมาวางขายเยอะมากนักเพราะเนื่องจากว่าเด็กๆเริ่มไม่รู้จักตุ๊กตาตัวนี้แล้วในสมัยที่รายการทีวีกล้วยหอมจอมซนออกมาใหม่ๆนั้นเด็กๆให้ความสนใจบี 1 กับ บี 2มากจึงทำให้มีผู้ผลิตตุ๊กตานำรูปแบบของบี 1 บี 2 ไปสร้างเป็นตุ๊กตา กล้วยหอมบี 1 และบี 2 ออกวางจำหน่ายนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  กริลแอร์

ตำนานซาลาเปาเนื้อคน 

          เชื่อว่าหากใครที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป เชื่อว่าคงเคยได้ยินเกี่ยวกับซาลาเปาเนื้อคน เพราะเคยเป็นข่าวโด่งดังมากในอดีตจนถึงขนาดที่ว่า เคยนำเรื่องราวนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อน ซึ่งเรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน  ความโด่งดังของเรื่องนี้กลายมาเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบันนี้

      สำหรับเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งเปิดร้านขาย ซาลาเปา ซึ่งเป็นร้านเล็กๆอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งของประเทศจีน ด้วยเศรษฐกิจไม่ค่อยดี การขายซาลาเปาของร้านขายได้น้อย เพราะวัตถุดิบมีราคาแพง ในที่สุดเจ้าของร้านคนดังกล่าวก็ต้องมานั่งหาวิธีที่จะทำซาลาเปาขาย โดยการลดต้นทุน และเขาก็นึกขึ้นได้ว่า  หากเขาเปลี่ยนจากเนื้อหมูไปเป็นเนื้อชนิดอื่นที่สามารถกินได้แล้วอร่อยด้วย

อาจจะทำให้ร้านค้าของเขาขายดี ดังนั้นเขาจึงได้นึกถึงน้องชายของเขาขึ้นมา ซึ่งน้องชายของเขา เขามีอาชีพเป็นสัปเหรอ  และเมื่อได้พูดคุยกับน้องชาย ก็ทำให้ทั้งสองพี่น้องได้ตกลงกันว่าจะนำเนื้อจากศพคนตาย มาทำเป็นใส้ซาลาเปา

      ในครั้งแรกที่มีการนำเนื้อคนมาทำไส้ของซาลาเปานั้น เจ้าของร้านก็กล้าๆกลัวๆว่าคนจะจับได้ แต่เมื่อมีคนซื้อไปกิน แล้วกลับมาบอกว่าซาลาเปาของร้านเขาอร่อย ก็ทำให้เขาโล่งใจหลังจากนั้น กิจการของซาลาเปาไส้เนื้อคนของเขาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว มีคนมากมายมาซื้อซาลาเปาของเขาไปกิน ขนาดที่ว่าคนมาซื้อจะต้องต่อแถวกันยาวกว่าจะซื้อได้ และนั่นทำให้กิจการของร้านขายซาลาเปาที่เป็นเพียงร้านเล็กๆ มีการขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น แต่เขาก็ไม่เคยที่จะจ้างคนงานเลย เพราะกว่าว่าความลับในการทำซาลาเปาของเขาจะรั่วไหลไปให้คนอื่นรู้ 

       แต่อย่างไรก็ตามในที่สุด เรื่องราวดังกล่าวก็ถูกเปิดเผยจนได้ เมื่อมีครอบครัวหนึ่งเขาสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก หลังจากที่เขาทำพิธีเสร็จแล้วและกำลังจะนำศพไปฝัง ปรากฏว่าทั้งสองสามีอยากจะเห็นลูกสาวอีกครั้งก่อนฝังจึงได้มีการเปิดฝาโลงดูและก็พบความผิดปกติของศพลูกสาว เพราะศพนั้นมีร่องรอยของการถูกเฉือนเอาเนื้อออกไปเยอะมาก

พวกเขาจึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ จึงนำมาสู่การสืบสวนสอบสวน และเมื่อสัปเหรอผู้น้องถูกจับเขาก็ให้การรับสารภาพว่า ชิ้นเนื้อที่หายไปของศพนั้น ถูกนำไปเป็นไส้ของซาลาเปา และน้องชายที่เป็นสัปเหรอก็ได้มีการบอกชื่อร้าน ทำให้ทั้งพี่ชายและน้องชายถูกจับกุมได้ในที่สุด ส่วนคนที่เคยไปซื้อซาลาเปาที่ร้านดังกล่าวก็พากันอ๊วกและเข็ดการกินซาลาเปากันไปเลยทีเดียว 

         

สนับสนุนโดย  ole777

ตำนาน โทะโดะเมกิหรือตำนานยักษ์ร้อยตา 

         อีกหนึ่งตำนานของประเทศญี่ปุ่นที่น่าสนใจ  เราคงต้องบอกว่าตำนานนี้ยังมีการพูดถึงกันอยู่ในปัจจุบันโดยเฉพาะผู้ใหญ่มักจะปลูกฝังตำนานนี้สำหรับเด็กเล็กๆเพื่อให้เกิดความกลัวไม่ให้กระทำความผิด  สำหรับตำนาน  โทะโดะเมกิ  หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของตำนานรักร้อยตา ว่ากันว่าตำนานนี้มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะแล้ว 

         โดย ยักษ์ในตำนานนี้นั้นว่ากันว่าเป็นยักษ์ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวยแต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวกันก็คือเมื่อยักษ์ตัวนี้ปรากฏบริเวณลำตัวและใบหน้าของยักษ์ตนนี้จะมีดวงตาเป็นไปหมดเรียกได้ว่ามีตาเป็นร้อยๆตาอยู่บนตัวของนักเตะนี้  ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหักตรงนี้ต้องการตามหาตัวคุณแล้วเราก็มันจะรู้ทันทีว่าคุณไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหน

        แต่ตามตำนานของประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่า โทะโดะเมกิ  หรือยักษ์ลอยตานั้นเป็นยักษ์ที่ดีมีคุณธรรม  เธอเป็นยักษ์ที่นิสัยดีและไม่เคยทำร้ายใครไม่เคยปรากฏเรื่องเล่าเรียนไปว่ายักษ์ร้อยตานี้ออกมาอาละวาดทำร้ายผู้คนแต่สิ่งที่ทำให้คนพูดถึงตำนานของยักษ์ร้อยตากันอยู่บ่อยครั้งนั่นก็เพราะว่ามีเรื่องเล่าจากรุ่นปู่ตายายเล่าต่อๆกันมาให้ลูกหลานของตนเองได้ฟังโดยสอนให้ลูกหลานตนเองนั้นทำความดีอย่าทำความชั่วอย่ามีความลับ  เพราะถ้าหากว่ายักษ์ 100 ตาหรือ  โทะโดะเมกิ  รู้เรื่องเข้าแล้วก็มันจะมาหาคุณทันทีโดยวิธีการมาของยักษ์ร้อยตามหาคนที่แอบซ่อนการทำความผิดเอาไว้นั้นมันไม่ได้มาในลักษณะของรูปร่างของยักษ์แต่มันจะมาในลักษณะของดวงตา

          โดยว่ากันว่าหากมีใครที่ทำความผิดและปกปิดเอาไว้  ซ่่อนเร้นความผิดของตนเองให้เปิดเผยให้ใครรับรู้เพราะกลัวจะโดนกฎหมายลงโทษยักร้อยตาจะมาเป็นกฎหมายลงโทษตามความผิดคนนั้นเองซึ่งวิธีการลงโทษของยักษ์ร้อยตามนั้นมันจะมาในรูปแบบของมีดวงตาขึ้นอยู่บนตัวของคุณเมื่อคุณทำความผิด 1 ครั้งดวงตาก็จะขึ้นที่ 1 ดวงที่ลำตัวของคุณและคุณทำความผิด 2 ครั้งดวงตาคู่ที่ 2 ก็จะขึ้นมาบนลำตัวของคุณและคุณทำความผิดไปเรื่อยๆ 10 ครั้งหรือ 20 ครั้งหรือ 100 ครั้งทุกครั้งที่คุณทำความผิดก็จะมีดวงตาขึ้นมาที่ร่างกายของคุณเรื่อยๆจนในที่สุดคุณก็จะมีสภาพไม่ต่างกับ โทะโดะเมกิ  หรือยักษ์ร้อยตานั่นเอง

         อันที่จริงตำนานเหล่านี้อาจจะเป็นการสอนบุตรหลานของตนเองว่าให้เป็นคนดีของสังคมไม่เป็นคนชั่วและเมื่อกระทำความผิดควรยอมรับความผิดไม่ปิดบังซ่อนเร้นสิ่งที่ตัวเองทำความผิดเอาไว้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี ruay